บางคนอาจจะดูถูกครอบครัวยากจน ว่าคิดสั้นเกินไป ไม่มองอนาคต ชีวิตข้างหน้าคุณก็ไม่มีวันรวย ไม่มีวันสุขสบาย ไม่มีวันมีบ้านใหญ่โต ไม่มีวันมีรถสวยๆ แพงๆ ผมว่ามันถูกแค่ครึ่งเดียว ที่ว่าไม่มีวันมีบ้านใหญ่โต ไม่มีวันมีรถสวยๆแพงๆ มันถูกแล้ว แต่ที่ว่าไม่มีวันมีความสุข เขาอาจจะสุขทุกวันอยู่แล้วก็ได้ คุณอยากเอาตัวเองไปเทียบ หรืออยากเอาใครไปเทียบ เพราะชีวิตเขาจะมีความสุขมันอยู่ที่ตัวเขาเอง เขาอาจไม่ได้ต้องการสิ่งที่คุณบอกมาตั้งมากมาย ค่านิยมวัตถุสิ่งของเหล่านี้มันกระจายมาตามสื่อต่างๆ และความเจริญที่ขยายเข้ามาในพื้นที่ มันมีข้อดีตรงความสะดวกสบาย โรคต่างๆเริ่มมีทางรักษา แต่ความสะดวกสบายมันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนเรามีความสุข สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขก็คือ ใจ ของเรานั้นเอง เราไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบคนรวย ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบคนอื่นๆ เราก็มีความสุข ให้เอาใจเราป็นตัวตั้ง แล้วเลือกใช้ชีวิตในแบบของเราเอง
เราจะเลือกใช้ชีวิตยังไงให้มีความสุข บางคนอาจคิดว่าต้องใช้ชีวิตให้คุ้มหาเงินมากินเที่ยว แต่พอแก่ไปถ้าไม่วางแผนชีวิตอาจจะทุกข์ตอนแก่ แต่ถ้าใครบอกว่าใช้ชีวิตคุ้มแล้วตอนแก่จะเป็นยังไงก็ช่าง คุณก็ใช้ชีวิตถูกแล้ว เพราะคุณวางแผนไว้แล้วรู้แล้วว่าข้างหน้าจะเป็นอะไรแต่ยอมรับมันได้ พอใจกับมันแสดงว่าคุณก็มีแผนใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบของคุณ แต่บางคนก็ไม่ได้มีความสุขที่ได้กิน ได้เที่ยว
ที่ผมเขียนมานี้ไม่ได้จะบอกว่าเงินไม่สำคัญหรืออะไรหรอก เพียงแต่อย่าไปยึดติดกับสิ่งเหล่านั้นให้มันมาก การมีเงินมากมายไม่ใช้สิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกคนมีความสุข การมีคนรักมากมายไม่ใช่สิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกคนมีความสุข การมีบ้านใหญ่โตไม่ใช่สิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกคนมีความสุข การมีรถแพงๆ ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกคนมีความสุข ฯลฯ
อุดมคติ การใช้ชีวิตให้มีความสุข ให้เราเอาจิตใจเราเป็นตัวตั้ง เราต้องการแบบไหน เราพอใจกับแบบไหน ไม่ต้องเอาชีวิตในแบบคนอื่นมาเทียบ แต่อย่าลืมวางแผนอนาคตด้วย ไม่ใช่แค่ปัจจุบัน แต่อย่าไปยึดติดกับอนาคตมากไป บางคนอาจจะคิดออกก็คงมีทางใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบของคุณ
แต่บางคนไม่มีสิ่งพอใจในชีวิต ลองมองดูรอบๆ ตัว เรามีความสุขกับงานกับอะไร ที่อยู่ใกล้เราหรือเปล่าบางคนอาจจะมองข้ามตรงจุดนี้ไป ถ้ายังไม่เจอให้อีก ให้คุณลองออกไปในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ เช่น ไปเข้าชมรมปั่นจักรยาน ตามเว็บรู้สึกจะมีกลุ่มเหล่านี้อยู่แล้วเข้าจะจัดทิปไปปั่นที่ต่างๆ เราก็ลองไปร่วมดูเผื่อจะเจอกับสิ่งที่เราชอบ หรือจะเป็นกลุ่มคนรักรถซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม หลายยี่ห้อ หรือเตะบอล ลองออกจากสังคมเดิมๆ ไปลองในสังคมใหม่ๆดู แต่ถ้ายังไม่พบสิ่งที่ต้องการอีก ฮ่าๆๆ กูเกิดมาทำไมนี้ คุณลองไปนั่งที่ๆคนเยอะๆแล้วลองนั่งและสังเกตดูคนเหล่านั้นที่เดินไปมาว่าเขาเหล่านั้นเป็นยังไง เขาทำอะไรกัน สีหน้าเข้าเป็นยังไง เขาใส่ชุดยังไง การใช้ชีวิตของเขาน่าจะเป็นแบบไหน คุณอาจจะเห็นอะไรหลายๆอย่างที่คุณไม่เคยเห็น ขณะที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นรอบตัวคุณ เพราะคุณไม่เคยเลยที่จะสังเกตมัน ถ้ายังไม่พบอะไรอาจจะลองนั่งสมาธิ และ ลองปฏิบัติธรรมดู ผมไม่ได้จะให้ไปบวชนะครับ การนั่งสมาธิเป็นการทำให้เราได้อยู่กับตัวเราเอง ให้เราลองพิจารณาตัวเราเองเราอาจจะรู้อะไรที่เราไม่เคยรู้ในตัวเรา โดยเราสามารถปฏิบัติและศึกษาธรรมมะไปกับการดำเนินชีวิตแบบปกติ บางทีคนทั่วไปอาจปฏิบัติได้มากกว่าพระบางรูปด้วยซ้ำ (พระที่เป็นข่าวเสียๆ) พุทธจริงไม่น่าจะนับถือผีสางหรืออะไรเหนือธรรมชาติหรอก การบวชก็แค่เป็นการทำให้ออกไปจากสิ่งที่ทำให้เกิดกิเลสในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป และมีเวลาศึกษาธรรมอย่างจริงจัง ซึ่งโดยทั่วไปพระที่บวชจะมีเวลาศึกษามากว่าคนทั่วไปเท่านั้นเอง พอดีกว่า